กรมโยธามีจัดทำ มยผ. 1321-61 “มาตรฐานการออกแบบราวกันตกในอาคารจอดรถยนต์” ไว้ให้ครับ อ้างอิงมาตรฐานสากล
แต่อีกเรื่องสำคัญคือ กฎหมายอาคารไม่ได้กำหนดคุณสมบัติของราวกันตกอาคารจอดรถไว้ กำหนดไว้กว้างๆ เช่น “ราวกันตกที่มีความมั่นคงแข็งแรงเพียงพอที่จะให้ความปลอดภัยแก่รถยนต์และบุคคลได้” (อ้างอิงข้อบัญญัติ กทม. เรื่องควบคุมอาคาร พ.ศ. 2544 ข้อ 95 และ ข้อบัญญัติ กทม. เรื่องอาคารจอดรถยนต์ พ.ศ. 2521 ข้อ 9)
บุคคล ในที่นี้ คือคนขับที่อยู่ในรถ หรือรวมถึงบุคคลทั่วไปนอกอาคารด้วย
ถ้าราวกันตก ค.ส.ล. แข็งแรงพอ ก็จะทำให้รถไม่สามารถทะลุผนังแล้วตกลงมาเป็นอันตรายกับคนข้างล่าง แต่แรงกระแทกนั้นจะย้อนกลับไปหาคนขับที่อยู่ในรถ อาจเสียชีวิต หรือบาดเจ็บหนัก
ความเห็นผมจึงคิดว่าควรทำราวกันตก 2 ชั้น ทั้งแบบ Flexible Barrier (พวกราวเหล็ก) และ Rigid Barrier (พวกราวคอนกรีตเสริมเหล็ก)
Flexible Barrier ทำหน้าที่ลดแรงกระแทกในชั้นแรก พอไปถึง Rigid Barrier แรงกระแทกจะลดลงมากแล้ว คนขับก็ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต และคนภายนอกอาคารก็ไม่ต้องเสี่ยงโดนรถพุ่งลงมาทับ แต่สิ่งที่ตามมาคือต้นทุนค่าก่อสร้างนั่นเอง
ออกแบบให้มีมาตรฐาน มีทั้ง Flexible Barrier และ Rigid Barrier เพื่อความปลอดภัยกันดีกว่าครับ